
การผ่าตัดมดลูก (Hysterectomy) คือ การผ่าตัดทางนรีเวชที่กระทำเป็นอันดับ 2 รองจากการผ่าตัดคลอด โดยสาเหตุของการเข้ารับการผ่าตัดมดลูกกว่า 90% คือการผ่าตัดเนื้องอกของกล้ามเนื้อมดลูก (Myoma uteri) อันดับ 2 คือการผ่าตัดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) ภาวะมดลูกหย่อน (Prolapsed uterus) เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ (Endometrial hyperplasia) ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก (Endometrial polyps) เซลล์ในเยื่อบุผิวปากมดลูกผิดปกติ (Cervical intraepithelial neoplasia) และสาเหตุสุดท้ายคือโรคมะเร็งที่เกี่ยวกับระบบอวัยวะสืบพันธุ์ผู้หญิง
วิธีการผ่าตัดมดลูกในปัจจุบัน มีกี่วิธี?

ปัจจุบันวิธีผ่าตัดมดลูกที่ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะความผิดปกติเกี่ยวกับมดลูกมีทั้งหมด 4 วิธี ดังนี้
- การผ่าตัดมดลูกผ่านผนังหน้าท้อง (Abdominal hysterectomy)
- การผ่าตัดมดลูกผ่านผนังหน้าท้องแบบแผลเล็ก (Minilaparotomy hysterectomy)
- การผ่าตัดมดลูกผ่านกล้อง (Laparoscopic hysterectomy)
- การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด (Vaginal hysterectomy)
แม้ว่าทั้ง 4 วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะเกี่ยวกับมดลูกได้เช่นเดียวกัน แต่งานวิจัยทางการแพทย์ (Medical evidence) พบว่าในปัจจุบัน วิธีผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด (Vaginal hysterectomy) คือ วิธีที่ให้ผลดีกว่าการผ่าตัดมดลูกผ่านกล้องและการผ่าตัดมดลูกผ่านผนังหน้าท้อง ในเรื่องของความปลอดภัย เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และความประหยัด
ส่วนการผ่าตัดมดลูกผ่านกล้อง (Laparoscopic hysterectomy) ให้ผลได้ดีกว่าการผ่าตัดมดลูกผ่านผนังหน้าท้อง ในเรื่องระยะพักฟื้นและการนอนโรงพยาบาลที่สั้นกว่า เสี่ยงติดเชื้อที่แผลน้อยกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระยะเวลาการผ่าตัดที่นานกว่า และเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับท่อไตและกระเพาะปัสสาวะได้มากกว่า
ผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอดไร้แผล (Vaginal hysterectomy) คืออะไร?
การผ่าตัดเอามดลูกออกจากร่างกายแบบไร้แผลที่แพทย์ใช้รักษาผู้ป่วย เป็นนวัตกรรมทางการผ่าตัดที่พัฒนามาจากการผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดในอดีตที่ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะเกี่ยวกับมดลูกหย่อนและกะบังลมหย่อนเท่านั้น ก่อนที่จะพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดจนสามารถผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดได้ โดยที่ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องมีภาวะมดลูกหย่อนหรือกะบังลมหย่อน
ปัจจุบันการผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด (Vaginal hysterectomy) คือ วิธีการผ่าตัดที่ให้ผลดีกว่าการผ่าตัดมดลูกผ่านกล้อง และการผ่าตัดผ่านผนังหน้าท้อง ทั้งในเรื่องความปลอดภัยและเรื่องระยะเวลาในการพักฟื้น รวมทั้งยังเป็นวิธีผ่าตัดที่ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ภายนอกร่างกาย

ข้อดีของการผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอด
วิธีผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด (Vaginal hysterectomy) ไม่ใช่แค่วิธีผ่าตัดที่ให้ผลการรักษาที่ดีเท่านั้น เพราะจากข้อมูลของ Cochrane collaboration องค์กรที่ทำการศึกษาทางการแพทย์แบบ Meta analysis RCT ซึ่งมีการเปรียบเทียบผลของการผ่าตัดมดลูกผ่านช่องคลอดกับการผ่าตัดมดลูกผ่ากล้องและผ่านหน้าท้อง พบว่าวิธีผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด (Vaginal hysterectomy) มีข้อดีที่มากกว่าในหลายด้าน ดังนี้
- มีความปลอดภัยและใช้เวลาผ่าตัดน้อย
- ระยะเวลาอยู่โรงพยาบาลสั้น
- ระยะเวลาพักฟื้นสั้น
- ภาวะแทรกซ้อนน้อย
- บาดเจ็บน้อย
- สวยงามกว่าเพราะไม่มีแผลภายนอกร่างกาย
- ราคาถูกกว่าวิธีอื่น ๆ

ผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอด (Vaginal hysterectomy) รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
การผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอดเป็นวิธีที่ต้องอาศัยความชำนาญของทีมแพทย์ในการใช้เครื่องมือและประสบการณ์ในการผ่าตัดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา ซึ่งปัจจุบันวิวัฒนาการและเทคโนโลยีเครื่องมือผ่าตัดมีความก้าวหน้าทำให้การผ่าตัดมดลูกผ่านช่องคลอดสามารถทำการรักษาได้เกือบทุกกรณี โดยไม่ต้องมีภาวะการหย่อนของมดลูกหรือกะบังลม ดังนี้
- เนื้องอกมดลูก
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เข้าไปในกล้ามเนื้อมดลูก
- เซลล์ปากมดลูกผิดปกติ
- ภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก
- เยื่อบุโพรงมดลูกหนาผิดปกติ
นอกจากนี้ การผ่าตัดมดลูกผ่านช่องคลอด (Vaginal hysterectomy) ยังเป็นวิธีที่ใช้รักษาภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกได้ทั้งผู้ป่วยที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์, ผู้ป่วยที่ไม่เคยตั้งครรภ์ และผู้ป่วยที่เคยมีประวัติการผ่าตัดคลอดอย่างไม่มีข้อจำกัด ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์และทักษะความชำนาญของนรีแพทย์ผู้ผ่าตัด

ข้อจำกัดของการผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด
การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดเป็นวิธีที่ใช้รักษาผู้ป่วยได้หลายกรณี และให้ผลที่ดีหลังการรักษา แต่ก็การผ่าตัดแบบ Vaginal hysterectomy ก็มีข้อจำกัดอยู่ในบางกรณี ดังนี้
- มีพังผืดหนาในอุ้งเชิงกราน
- พยาธิสภาพของปีกมดลูกยังไม่ได้รับการวินิจฉัย
- ข้อจำกัดทางด้านความชำนาญ และทักษะของนรีแพทย์ผู้ผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอด (Vaginal hysterectomy)
เพื่อให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้ป่วยควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเข้ารับการผ่าตัดมากที่สุด โดยการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด มีดังนี้
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบกรณีที่มีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องรับประทานอยู่เป็นประจำ
- เตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัดไม่น้อยกว่า 4 สัปดาห์
- งดน้ำและอาหารทุกชนิดอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
- หากมีความกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนและวิธีการผ่าตัดควรสอบถามทางแพทย์ เพื่อผ่อนคลายความเครียดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดส่องกล้องทางช่องคลอด (Vaginal hysterectomy) เพื่อการฟื้นตัวที่รวดเร็ว
หลังผ่านการผ่าตัดผู้ป่วยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองในช่วงแรก ซึ่งข้อดีของวิธีผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอด คือ ไร้แผล บาดเจ็บน้อยทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว อาจใช้เวลาเพียง 2-3 วัน ในการพักฟื้นที่โรงพยาบาล และอีก 2-3 สัปดาห์สำหรับการพักฟื้นที่บ้าน โดยข้อควรปฏิบัติหลังผ่าตัดมีดังนี้
- งดยกของหนักมากกว่า 5 กิโลกรัม เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์
- งดการมีเพศสัมพันธ์ เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์
- พบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล
สำหรับกิจกรรมอื่น ๆ สามารถทำได้หลังการพักฟื้นอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด ทั้งนี้หากพบความผิดปกติ เช่น รู้สึกเจ็บบริเวณช่องคลอด มีเลือดไหลซึม ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม

ปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจก่อนการผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอด (Vaginal hysterectomy)
การผ่าตัดมดลูกทางช่องคลอด เป็นวิธีการรักษาโรคทางนรีเวชสำหรับผู้หญิงที่ไม่เพียงช่วยรักษาและลดความเสี่ยงต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน ช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยหลังผ่าตัดดีขึ้นได้แบบไร้ความกังวล ทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยถึงความเหมาะสมและมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้มากที่สุด
ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง MSC Healthcare เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการผ่าตัดส่องกล้องไร้แผลรักษาโรคทางนรีเวช ที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีหลังผ่าตัด โดยแพทย์จะทำการวินิจฉัยผู้ป่วยในแต่ละเคสเพื่อดูความเหมาะสมและหาแนวทางการรักษาที่ปลอดภัยมากที่สุดสำหรับผู้ป่วยหากท่านมีความกังวลหรือสงสัยเกี่ยวกับโรคทางนรีเวช สามารถสอบถามทาง MSC Healthcare ได้ที่ ติดต่อเรา หรือเลือกนัดหมายเพื่อ ปรึกษาแพทย์ผ่าน Telemed Service เพื่อรับคำแนะนำสำหรับการเตรียมความพร้อมทั้งก่อนและหลังผ่าได้อย่างมั่นใจ เพราะที่ MSC Healthcare
“การรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย ไม่ควรมีข้อจำกัด”