
งบไม่บานปลาย
แพ็กเกจรวมทุกค่าใช้จ่าย ทั้งค่าห้อง ค่าผ่าตัด ค่าอุปกรณ์ และค่าทีมแพทย์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
พิเศษ ผ่อนชำระผ่านบ้ตรเครดิต 0% นาน 10 เดือน
ไส้เลื่อนคืออะไร?
โรคไส้เลื่อน (Hernia) คือภาวะที่อวัยวะภายในเคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิมผ่านรูหรือกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง จนเกิดเป็นก้อนตุงพบบ่อยบริเวณขาหนีบ แบ่งได้หลายชนิดตามตำแหน่งและสาเหตุ ส่วนใหญ่วิธีการรักษาไส้เลื่อนทำได้โดยการผ่าตัด และพบได้ในทั้งชายและหญิงทุกวัย
ไส้เลื่อนอาจรุนแรงถึงขั้น Strangulated Hernia ซึ่งเกิดจากอวัยวะที่ถูกบีบจนขาดเลือด หากปล่อยไว้เสี่ยงต่อภาวะลำไส้อุดตันและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นหากมีอาการควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม
สาเหตุของการเกิดโรคไส้เลื่อน
ไส้เลื่อนเกิดจากผนังหน้าท้องอ่อนแอหรือฉีกขาด ทำให้อวัยวะภายใน เช่น ลำไส้ กระเพาะอาหาร หรืออัณฑะ เคลื่อนออกมานอกช่องท้อง โดยมีสาเหตุหลักดังนี้
- กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแอ พบในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคอ้วน
หรือผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นไส้เลื่อน - แรงดันในช่องท้องเพิ่มขึ้น เกิดจากการยกของหนัก
การไอ จาม เบ่งอุจจาระ หรือการตั้งครรภ์ - ผลจากการผ่าตัดช่องท้อง กล้ามเนื้อหน้าท้องอ่อนแอลง
เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไส้เลื่อน
โรคนี้เกิดได้กับทุกเพศ แต่พบบ่อยในผู้ชายและผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 50 ปี


อาการของการเกิดไส้เลื่อน
อาการของไส้เลื่อน มักเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยทำกิจกรรมหรือยกของหนัก โดยอาการจะแตกต่างกันตามตำแหน่งของอวัยวะที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งอาการที่พบบ่อย ได้แก่
ไส้เลื่อนสามารถเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่ง ตำแหน่งเราสามารถที่พบบ่อย
และสามารถผ่าตัด ไส้เลื่อน แบบส่องกล้องได้ มีดังนี้

ไส้เลื่อนขาหนีบ (Inguinal hernia)
เกิดจากการเคลื่อนตัวของอวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ลำไส้ใหญ่หรือไส้ติ่ง ผ่านรูเล็กในกล้ามเนื้อบริเวณขาหนีบ โดยพบได้บ่อยในผู้ชายและมักเกิดในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี
อาการของไส้เลื่อนขาหนีบมักมีการเกิดก้อนบริเวณขาหนีบ สามารถสัมผัสได้ และมีอาการคัน ปวด หรือรู้สึกตึงบริเวณก้อน อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เบื่ออาหาร ท้องผูก หรือท้องเสีย
สำหรับการรักษา มักใช้วิธีผ่าตัดเพื่อจัดอวัยวะกลับเข้าที่และเสริมความแข็งแรงของผนังกล้ามเนื้อด้วยตาข่าย ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและช่วยลดโอกาสเกิดซ้ำในอนาคต

ไส้เลื่อนสะดือ (Umbilical hernia)
เกิดจากการเคลื่อนตัวของอวัยวะภายใน เช่น ลำไส้เล็ก ออกมาผ่านรูสะดือ ทำให้เกิดก้อนนูนบริเวณสะดือหรือหน้าท้อง โดยมักเกิดจากความอ่อนแอของกล้ามเนื้อหน้าท้อง ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายหากไม่มีอาการปวดหรือความผิดปกติเพิ่มเติม แต่ในบางกรณีอาจมีอาการปวด บวม หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนหากไม่ได้รับการรักษา
ไส้เลื่อนสะดือสามารถพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ มักเกิดหลังการเคลื่อนไหวผิดท่า การออกกำลังกายหนัก หรือภาวะโรคอ้วน ซึ่งทำให้เนื้อเยื่อยืดหยุ่นและหย่อนตัวได้ง่ายขึ้น

ไส้เลื่อนกระบังลม (Hiatal hernia)
เกิดจากความอ่อนแอของกล้ามเนื้อกระบังลม ทำให้กระเพาะอาหารหรืออวัยวะภายในเคลื่อนตัวขึ้นไปในช่องอก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น กลืนอาหารได้ยาก รู้สึกแสบร้อนกลางอก กรดไหลย้อน หรือหายใจลำบากเมื่ออยู่ในท่านั่งตัวตรงหรือนอนราบ
การตรวจวินิจฉัยสามารถทำได้ด้วยการเอกซเรย์ (X-ray) หรือการส่องกล้องตรวจภายในหลอดอาหาร (Endoscopy) เพื่อดูตำแหน่งและความผิดปกติของอวัยวะ

ไส้เลื่อนแผลผ่าตัด (Incisional hernia)
มักเกิดขึ้นบริเวณแผลผ่าตัดเดิม เนื่องจากเนื้อเยื่อหรืออวัยวะ เช่น ลำไส้ เคลื่อนนูนออกมาตรงแผลที่ยังไม่หายดี สาเหตุอาจมาจากการออกกำลังกายหรือยกของหนักขณะยังพักฟื้น การติดเชื้อหลังผ่าตัด หรือการดูแลแผลที่ไม่เหมาะสม เช่น การสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงพักฟื้น
ไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคไส้เลื่อน
ไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคไส้เลื่อนกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รู้ทันอาการและรักษาอย่างถูกวิธี
Q&A
Q : ไส้เลื่อนมีโอกาสหายเองไหม ?
A : ไม่สามารถหายได้เอง จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เนื่องจากก้อนไส้เลื่อนที่ยื่นออกมาจะไม่หายไปเอง
Q : ผ่าตัดส่องกล้องไส้เลื่อน กี่วันหาย ?
A : หลังการผ่าตัดส่องกล้องแบบ MIS ระยะเวลาการฟื้นตัวหลังการผ่าตัดจะเร็วกว่าการผ่าตัดแบบปกติ โดยถ้าผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี การผ่าตัดส่องกล้องก็จะสามารถฟื้นตัวได้เพียง 2 สัปดาห์
Q : ข้อห้ามหลังจากการผ่าตัดส่องกล้อง มีอะไรบ้าง ?
A : หากมีอาการปวดแผลหลังผ่าตัดส่องกล้อง ควรแจ้งแพทย์เพื่อขอยาบรรเทาอาการ ซึ่งอาการจะดีขึ้นภายใน 2-3 วันหลังรับยา ควรงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการยกของหนักเกิน 4 กิโลกรัม และงดออกกำลังกายหนักประมาณ 2-4 สัปดาห์
Q : ผ่าตัดส่องกล้องจะเจ็บกี่วัน ?
A : อาการปวดและความอ่อนเพลียมักพบในช่วง 1-3 วันแรกหลังผ่าตัด ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ หากมีอาการปวดมากหรือคลื่นไส้ ควรแจ้งพยาบาลเพื่อขอยาบรรเทา อาการปวดจะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
วิธีรักษาไส้เลื่อนโดยการผ่าตัดส่องกล้องซ่อนแผล
การรักษาไส้เลื่อนด้วยการผ่าตัดส่องกล้องเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงและฟื้นตัวเร็ว ลดโอกาสการเกิดซ้ำในอนาคต
ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง “ซ่อนแผล” คืออะไร?
การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง “ซ่อนแผล” เป็นการผ่าตัดที่ใช้อุปกรณ์ผ่านทางรูสะดือ
เพียงจุดเดียว ขนาดแผลเล็กเพียง 0.5 – 1 เซนติเมตร เมื่อแผลหายแล้ว
สามารถซ่อนในรูสะดือ ทำให้แทบไม่เห็นรอยแผลหลังการผ่าตัด
ในขณะที่การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้องทั่วไปจะใช้อุปกรณ์ 3 – 5 รู
แต่ละรูมีขนาดประมาณ 0.5 – 1 เซนติเมตร บริเวณหน้าท้อง เพื่อซ่อมแซมไส้เลื่อน
เทคนิคการผ่าตัด “ซ่อนแผล” นี้ใช้อุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า
“Single-Port Laparoscopic Surgery System”
ซึ่งรวมกล้องและเครื่องมือผ่าตัดไว้ในท่อเดียว สอดผ่านรูสะดือ
ทำให้ลดจำนวนแผลและซ่อนแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผ่าตัดไส้เลื่อนส่องกล้องโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์มากกว่า 2,500+ เคส

นพ.ปวัน จันท์แสนโรจน์
มีประสบการณ์การผ่าตัดรักษาไส้เลื่อนรวมมากกว่า 2,500 เคส ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดส่องกล้องรักษาไส้เลื่อนมากที่สุดในประเทศไทย
- ความชำนาญ : โรคอ้วน ผ่าตัดกระเพาะ กระเพาะอาหาร
ถุงน้ำดี ไส้เลื่อน - แพทย์เฉพาะทาง :
– ศัลยศาสตร์ส่องกล้องขั้นสูง
– ศัลยศาสตร์ไส้เลื่อนและการซ่อมแซมผนังหน้าท้อง
– ศัลยศาสตร์โรคอ้วนและเมแทบอลิก
สัมภาษณ์ นพ.ปวัน จันท์แสนโรจน์ การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง กับ MSC Healthcare ที่โรงพยาบาลเทพธารินทร์

ผ่าตัดไส้เลื่อนที่ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง MSC Healthcare ดีอย่างไร?
MSC Healthcare ศูนย์ผ่าตัดไส้เลื่อนผ่านกล้องโดยศัลยแพทย์ต่อยอดเฉพาะทาง เชี่ยวชาญเฉพาะโรค
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคประสบการณ์สูง
- ดูแลตลอดขั้นตอนการรักษา
- มีบริการปรึกษาแพทย์ฟรี
- ผ่าตัดและพักฟื้นที่โรงพยาบาล
- เบิกประกันได้ และช่วยดูแลในกรณีมีค่าใช้จ่ายส่วนต่าง