เทคนิคการผ่าตัดกระเพาะบายพาส (Gastric Bypass Surgery) ทางเลือกสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ

การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Gastric Bypass Surgery) เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาโรคอ้วนที่มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นไม่สำเร็จ นอกจากช่วยลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยในการรักษาโรคร่วม โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนร่วมกับโรคกรดไหลย้อน หรือ โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ไม่สามารถควบคุมโดยการใช้ยา เป็นต้น ส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถลดน้ำหนักและโรคร่วมได้ดีขึ้น และมีโอกาสกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงอีกครั้ง

การผ่าตัดกระเพาะบายพาสคืออะไร?

การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Roux-en-Y Gastric Bypass: RYGB) เป็นเทคนิคการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะอาหารร่วมกับปรับเส้นทางของระบบทางเดินอาหารใหม่ ทำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารได้น้อยลง อิ่มเร็วขึ้น ลดการดูดซึมบางส่วน และยังส่งผลต่อการควบคุมฮอร์โมนความหิว ทำให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การผ่าตัดวิธีนี้ใช้เทคนิคส่องกล้องแบบแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery) เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักและโรคร่วมอย่างยั่งยืน

อ่านบทความที่น่าสนใจ : เปรียบเทียบวิธีลดน้ำหนัก ผ่าตัดกระเพาะ VS ใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร แบบไหนเหมาะกับใคร?

ใครบ้างที่เหมาะกับการผ่าตัดกระเพาะบายพาส?

ในประเทศไทย การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Gastric Bypass Surgery) เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะโรคอ้วนรุนแรงและไม่สามารถลดน้ำหนักได้ด้วยวิธีอื่น โดยมีเกณฑ์พิจารณาดังนี้

• ค่า BMI ≥ 37.5 กก./ตร.ม. หรือ
• ค่า BMI ≥ 32.5 กก./ตร.ม. ร่วมกับมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ

การผ่าตัดนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยลดน้ำหนักและปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

การเตรียมตัวก่อนและหลังการผ่าตัดกระเพาะบายพาส

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะลดน้ำหนัก การเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังผ่าตัดเป็นเรื่องสำคัญ โดยสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ได้ดังนี้

ก่อนผ่าตัด

ก่อนเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหารบายพาส ผู้ป่วยต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพและความพร้อมของร่างกาย โดยแพทย์จะตรวจสุขภาพทั่วไป เช่น ตรวจเลือด ส่องกล้องกระเพาะอาหาร ตรวจประเมินภาวะไขมันพอกตับ นิ่วในถุงน้ำดี และวางแผนผ่าตัดให้กับผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม

หลังผ่าตัด

หลังผ่าตัดผู้ป่วยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทีมแพทย์ ในเรื่องของการรับประทานอาหารและภาวะโภชนาการ โดยเป็นอาหารอ่อนย่อยง่ายในช่วงแรก และหลังจากนั้นแล้วผู้ป่วยสามารถกลับมารับประทานอาหารได้ตามปกติ รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ และมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดโอกาสการขาดสารอาหาร และขาดวิตามิน

ผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสเป็นเทคนิคที่มีความปลอดภัยสูงเมื่อดำเนินการโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยอาจพบผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนได้ โดยสามารถแบ่งออกเป็น ผลข้างเคียงระยะสั้นและภาวะแทรกซ้อนระยะยาว ดังนี้

1. ผลข้างเคียงในช่วงแรกหลังผ่าตัด (โดยเฉพาะ 3 เดือนแรก)

• อ่อนเพลียและเวียนศีรษะ : เนื่องจากร่างกายปรับตัวกับการรับประทานอาหารที่น้อยลง
• คลื่นไส้ อาเจียน หรือแน่นท้อง : หากรับประทานอาหารเร็วเกินไปหรือในปริมาณมากเกินไป
• ผิวแห้งและผมร่วง : ซึ่งเกิดจากการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและภาวะขาดสารอาหารในช่วงแรก
• อารมณ์แปรปรวน : เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนและสารอาหารในร่างกาย

2. ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว

• ภาวะขาดสารอาหาร : เนื่องจากการดูดซึมสารอาหารลดลง จำเป็นต้องได้รับวิตามินและแร่ธาตุเสริมรับประทานอย่างต่อเนื่อง
• ภาวะท้องเสียหรืออาการท้องอืด (Dumping Syndrome) : เกิดจากการที่อาหารเข้าสู่ลำไส้เล็กเร็วเกินไป ทำให้มีอาการคลื่นไส้ ใจสั่น และถ่ายเหลว
• ภาวะกระดูกพรุนหรือภาวะโลหิตจาง : จากการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็กลดลง

การดูแลและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

• รับประทานอาหารให้เหมาะสม เน้นโปรตีน ผัก ผลไม้ และลดการบริโภคแป้ง หรือ น้ำตาล
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ แต่หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำพร้อมมื้ออาหาร
• ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ
• รับประทานวิตามินและแร่ธาตุตามที่แพทย์แนะนำ
• เข้ารับการติดตามอาการตามนัดหมายของแพทย์อย่างต่อเนื่อง

แม้การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักและช่วยควบคุมโรคเรื้อรัง แต่การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว

ปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส

การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสเป็นเรื่องสำคัญ แม้ว่าจะมีความปลอดภัยสูงแต่เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนและดูความเหมาะสมของแต่ละคน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนการผ่าตัด และได้รับคำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนและหลังผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมรูปร่างที่สมส่วนและลดความเสี่ยงจากโรคร่วมที่มาพร้อมกับภาวะอ้วนได้

สำหรับท่านที่มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำหนักเกิน หรือมีภาวะอ้วน ที่ MSC Healthcare เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมให้คำปรึกษาและหาวิธีรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน โดยการผ่าตัดลดกระเพาะแบบบายพาสที่ MSC Healthcare เราให้ความสำคัญกับผลการรักษามากกว่าด้านความงาม ด้วยเทคนิคการผ่าตัดส่องกล้องที่ให้แผลขนาดเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยทุกเคสของเรา

สอบถามและทำนัดหมาย

Line : @msc.healthcare

โทร : 065-509-4459