ผ่าตัดกระเพาะอาหาร

ปัจจุบันผู้คนเริ่มให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพและการมีรูปร่างที่สมส่วนกันมากขึ้น เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจ บ่งบอกได้ถึงการมีสุขภาพที่ดี นอกจากการควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอแล้ว ยังมีวิธีลดน้ำหนักที่ได้ผลเร็ว ปลอดภัย และให้สุขภาพที่ดีขึ้นได้ นั่นคือการผ่าตัดกระเพาะและใส่บอลลูนกระเพาะอาหาร

ทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกัน ทั้งในวิธีการ ข้อดี และความเหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ ตามรายละเอียดต่อไปนี้

ความแตกต่างระหว่างการผ่าตัดกระเพาะ
และการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร

สำหรับวิธีผ่าตัดกระเพาะ และใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร เป็นหนึ่งในวิธีรักษาเพื่อลดน้ำหนักที่เหมือนกัน ดังนี้

การผ่าตัดกระเพาะอาหาร

วิธีลดน้ำหนักด้วยการผ่าตัดกระเพาะอาหาร เป็นวิธีที่แพทย์ทำการผ่าตัดให้ขนาดของกระเพาะอาหารเล็กลง เพื่อควบคุมพฤติกรรมการกินทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะทำการพิจารณาถึงความเหมาะสมของผู้ที่ต้องการผ่าตัดกระเพาะก่อนทำการรักษา 

โดยเฉพาะผู้ที่เคยพยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีการออกกำลังกายและควบคุมอาหารมาแล้วแต่ไม่ได้ผล หรือผู้ที่มีภาวะของโรคอ้วนที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคประจำตัว แต่กรณีที่มีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว เช่น ความดัน เบาหวาน หรือโรคหัวใจ เพื่อความปลอดภัยจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางก่อนเข้ารับการผ่าตัด

ข้อดีของการผ่าตัดกระเพาะ

  • ช่วยให้กระเพาะอาหารมีขนาดที่เล็กลง
  • ลดความรู้สึกอยากอาหาร และอิ่มได้เร็วขึ้น
  • สามารถควบคุมปริมาณอาหารและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินได้

การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร

สำหรับวิธีลดน้ำหนักด้วยการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร เป็นการใส่บอลลูนในกระเพาะโดยใช้เทคนิคส่องกล้องผ่านทางช่องปาก แล้วใส่น้ำเกลือเพื่อให้บอลลูนขยายตัวที่กระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและทานอาหารได้น้อยลง ซึ่งวิธีนี้แพทย์จะเลือกใช้สำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินโดยวิเคราะห์จากค่า BMI และยังใช้เวลาในการส่องกล้องใส่บอลลูนไม่นาน อีกทั้งยังไม่ทำให้เกิดรอยแผลเหมือนการผ่าตัด ซึ่งการลดน้ำหนักด้วยวิธีใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี โดยมีค่าเฉลี่ยในการลดน้ำหนักได้ตั้งแต่ 18-24 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับขนาดของบอลลูนที่แพทย์พิจารณาเลือกในการรักษา

ข้อดีของการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหาร

  • การส่องกล้องใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็น
  • ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นเร็วกว่าการผ่าตัด
  • ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็ว ลดความรู้สึกอยากรับประทานอาหาร
  • ช่วยจำกัดปริมาณอาหาร ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านบทความที่น่าสนใจ : เหตุใดการ ลดน้ำหนัก โดยวิธีทั่วไปจึงไม่ได้ผล



ผ่าตัดกระเพาะเหมาะกับใคร?

การผ่าตัดกระเพาะอาหารเป็นวิธีลดน้ำหนักที่ช่วยให้ ผู้เข้ารับการผ่าตัดมีรูปร่างและสรีระที่สมส่วนได้ แต่ก็เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับบางคนเท่านั้น โดยเฉพาะผู้ที่มีความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนที่มีความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคข้อเสื่อม หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนจากภาวะอ้วนที่ทำให้หยุดหายใจขณะหลับ นอนกรน 

นอกจากนี้ยังเป็นวิธีลดน้ำหนักที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งจากภาวะอ้วนได้อีกด้วย โดยผู้ที่เข้าเกณฑ์สำหรับวิธีลดน้ำหนักด้วยการผ่าตัดกระเพาะ ต้องมีอายุตั้งแต่ 18-65 ปี และมีเงื่อนไข ดังนี้

  • ผู้ที่มีค่า BMI 37.5 ขึ้นไป และไม่มีโรคประจำตัว
  • ผู้ที่มีค่า BMI 32.5 ขึ้นไป และมีโรคประจำตัวแต่อยู่ในระดับที่ควบคุมโรคได้
  • ผู้ที่มีค่า BMI 30 ขึ้นไป และมีโรคประจำตัว โดยที่ยังไม่สามารถควบคุมโรคได้ด้วยวิธีการรักษาตามปกติ


ใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารเหมาะกับใคร?

การใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารเป็นวิธีลดน้ำหนักที่มีข้อดีในเรื่องไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลได้เร็วเป็นธรรมชาติ ไม่โยโย่ แต่ด้วยวิธีรักษาที่ต้องส่องกล้องทางช่องปากจึงเป็นวิธีที่ไม่ได้เหมาะสำหรับผู้ที่มีการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร มีอาการกรดไหลย้อนที่รุนแรงหรือรักษาไม่ได้ มีภาวะเลือดออกง่ายหรือเลือดแข็งตัว หรือมีความผิดปกติของโครงสร้างในหลอดอาหาร โดยวิธีลดน้ำหนักด้วยการใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารเหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่มี BMI ตั้งแต่ 27-35 
  • ผู้ที่ผ่านการลดน้ำหนักมาหลายวิธี แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
  • ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักโดยไม่ผ่าตัดและมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถใช้วิธีส่องกล้องใส่บอลลูนได้
  • ผู้ที่ไม่เคยผ่านการผ่าตัดกระเพาะมาก่อน

ปรึกษาแพทย์เลือกแนวทางลดน้ำหนักที่เหมาะสมกับคุณ

ทั้งการผ่าตัดกระเพาะ และใส่บอลลูนในกระเพาะอาหารต่างก็เป็นวิธีลดน้ำหนักที่มีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ดีได้ทั้งสองวิธี แต่ด้วยกระบวนการและขั้นตอนในการรักษาที่ต่างกัน ดังนั้น ก่อนการรักษาจึงต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยตรง เพื่อหาแนวทางลดน้ำหนักที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และ ปลอดภัยเข้ากับร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย

MSC Healthcare ศูนย์ให้คำแนะนำผ่าตัดส่องกล้องและการลดน้ำหนัก โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่พร้อมให้คำแนะนำและปรึกษาเพื่อรักษาภาวะน้ำหนักเกิน ซึ่งแพทย์จะพิจารณา BMI ของคนไข้เป็นหลัก เพื่อเลือกวิธีรักษาและลดน้ำหนักที่เหมาะสม เพราะที่ MSC มุ่งเน้นที่การรักษามากกว่าเรื่องของความงาม ความปลอดภัยของคนไข้จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุด


“ลดน้ำหนักได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยที่ MSC Healthcare”