
อาการเจ็บเต้านม อาจทำให้หลายคนตกใจและสงสัยว่า “นี่คือสัญญาณของมะเร็งเต้านมหรือเปล่า ?” ความจริงคือ อาการเจ็บเต้านมไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นมะเร็งเสมอไป สาเหตุที่พบบ่อยอาจมาจากประจำเดือน ฮอร์โมน หรือการบาดเจ็บอื่น ๆ แต่หากมีอาการเจ็บปวดที่ผิดปกติและเรื้อรัง รวมถึงสัญญาณอื่น ๆ ที่น่าสงสัย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคที่ร้ายแรงอย่าง “มะเร็งเต้านม” ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่คร่าชีวิตหญิงไทยมากที่สุดในแต่ละปีได้
“เต้านมอักเสบ” หรือ “มะเร็งเต้านม” กันแน่ ?
การแยกแยะระหว่างเต้านมอักเสบและมะเร็งเต้านมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดการตื่นตะหนกในการใช้ชีวิต เพราะบางครั้งอาการเจ็บเต้านมอาจแค่เกิดจากการอักเสบที่ไม่รุนแรงจนถึงขั้นเป็นมะเร็งเต้านม ซึ่งมีสาเหตุจากหลายอย่าง เช่น
- การติดเชื้อ
- การอุดตันของท่อน้ำนม
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
- การใส่ชุดชั้นในที่รัดแน่นเกินไป
อาการที่พบบ่อยคือ เต้านมบวมแดง ร้อน และอาจมีไข้ร่วมด้วย บางกรณี เต้านมอักเสบมักพบในหญิงให้นมบุตร ซึ่งจะดีขึ้นเมื่อได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งแตกต่างจาก “มะเร็งเต้านม” ที่มักจะมาพร้อมกับอาการอื่น ๆ ดังนี้
- มีก้อนแข็งในเต้านม แต่กดลงไปไม่เจ็บ
- การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังและรูปร่างเต้านม
- หัวนมบุ๋มลงไป หรือมีของเหลวออกจากหัวนม
- ผิวหนังเต้านมเหมือนเปลือกส้ม
- ต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้โต
อ่านบทความที่น่าสนใจ : วิธีเช็กมะเร็งเต้านมด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่บ้าน
1 ในมะเร็งร้ายที่คร่าชีวิตหญิงไทย
ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ระบุว่า “มะเร็งเต้านม” ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้หญิงไทย สถิติพบว่าในแต่ละปีมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในผู้หญิงไทย การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ เช่น การตรวจเต้านมด้วยตัวเอง และการทำแมมโมแกรม (Mammogram) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมหรือผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไป การตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาและมีชีวิตรอดได้มากขึ้น
“ปัจจุบันพบว่าหญิงไทย 1 ใน 9 คน มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม”
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ มีดังนี้
- อายุที่เพิ่มขึ้น (โดยเฉพาะหลังวัยหมดประจำเดือน)
- ประวัติในครอบครัวมีผู้ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม
- การมีประจำเดือนเร็วหรือหมดประจำเดือนช้ากว่าคนปกติ
- ไม่เคยตั้งครรภ์หรือตั้งครรภ์ครั้งแรกหลังอายุ 30 ปี
- การใช้ฮอร์โมนทดแทนระยะยาว
- การดื่มแอลกอฮอล์
แม้ว่าจะเป็นมะเร็งที่น่ากลัว แต่หากได้รับการตรวจพบและรักษาในระยะแรก อัตราการรักษาหายจะสูงมาก

มะเร็งเต้านมไม่ใช่แค่ผู้หญิง ผู้ชายก็มีสิทธิ์เป็น
“มะเร็งเต้านม” มักถูกมองว่าเป็นโรคของผู้หญิงเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว “ผู้ชาย” ก็สามารถเป็นได้ แม้จะพบได้น้อยกว่าในผู้หญิงถึง 100 เท่าก็ตาม (ประมาณ 1% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด) อาการที่พบบ่อยคือ มีก้อนแข็งใต้หัวนมหรือบริเวณเต้านม หัวนมบุ๋ม หรือมีของเหลวไหลออกจากหัวนม และที่สำคัญคือมักถูกตรวจพบในระยะที่ลุกลามแล้ว เนื่องจากความไม่รู้และไม่ได้ระวังเหมือนผู้หญิง ดังนั้น ผู้ชายก็ควรสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตนเองด้วยเช่นกัน
อาการมะเร็งเต้านมในผู้ชาย
- หัวนมยุบบุ๋ม หรือหัวนมเปลี่ยนไป
- มีก้อนแข็งที่เต้านม เมื่อบีบแล้วไม่มีอาการเจ็บปวด
- มีการเปลี่ยนแปลงของหัวนมหรือผิวหนังบริเวณเต้านม
- ต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้โต
- เต้านมหรือหัวนมแดง
- มีของเหลวไหลออกจากหัวนม
- เป็นผื่นหรือแผลเรื้อรังบริเวณหัวนม
“ผู้ชายที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีประวัติครอบครัว การสัมผัสรังสี หรือมีโรคทางพันธุกรรม”
อ่านบทความที่น่าสนใจ : เช็กให้ชัวร์ สัญญาณเตือนเสี่ยงมะเร็งเต้านม

แม่เป็นมะเร็งเต้านม ลูกจะเป็นหรือไม่ ?
พันธุกรรมเป็นปัจจัยสำคัญ หากคุณแม่หรือคนในครอบครัวเคยป่วยเป็น “มะเร็งเต้านม” โอกาสที่ลูกสาวหรือลูกชายจะเป็น ย่อมสูงขึ้นกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะต้องเป็นโรคนี้เสมอไป
ลูกควรได้รับการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ และอาจพิจารณาการตรวจยีนกลายพันธุ์เพื่อประเมินความเสี่ยงในอนาคต โดยยีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านม เช่น BRCA1 และ BRCA2 สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากพบว่ามียีนผิดปกติ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเป็น 50 – 80% นอกจากนี้ การดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ตรวจร่างกายเป็นประจำ และตรวจเต้านมด้วยตนเอง ช่วยลดปัจจัยความเสี่ยงเบื้องต้นได้มากเช่นกัน
การป้องกันสำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรม
- ตรวจคัดกรองเป็นประจำตั้งแต่อายุเร็วขึ้น
- การตรวจทางพันธุกรรม
- การปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการป้องกัน
- การเปลี่ยนแปลงปัจจัยเสี่ยงในชีวิต เช่น งดการกินอาหารที่เพิ่มน้ำหนักตัว ลดการดื่มแอลกอฮอล์และบุหรี่
อ่านบทความที่น่าสนใจ : มะเร็งเต้านมมีกี่ระยะ? ยิ่งรู้เร็ว ยิ่งรักษาได้ทัน
มะเร็งเต้านมระยะแรก รีบรักษา = หายขาด
“มะเร็งเต้านมรักษาได้” โดยเฉพาะหากตรวจพบในระยะแรกที่ยังไม่ลุกลาม โอกาสรักษาหายสูงมาก ปัจจุบันวิธีการรักษามากมายขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์มะเร็งและสุขภาพของผู้ป่วย ซึ่งแพทย์จะเลือกตามระยะของมะเร็งและความเหมาะสมของผู้ป่วย ยิ่งตรวจพบเร็ว รักษาเร็ว โอกาสหายขาดยิ่งสูง ผู้ป่วยก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ“ในระยะแรกมีโอกาสหายขาดได้มากกว่า 90%
“สำหรับการรักษามะเร็งเต้านมระยะ 0 และระยะ 1 มักจะประสบความสำเร็จสูงกว่าในระยะเป็นมาก ๆ แล้ว”
การรักษาในระยะแรก
- มะเร็งเต้านมรักษาด้วยผ่าตัด
เป็นการรักษาหลัก โดยอาจเป็นการผ่าตัดเฉพาะก้อนหรือเต้านมทั้งข้าง
- การรักษาด้วยรังสี (Radiation Therapy)
เป็นการรักษาด้วยการใช้รังสีที่มีพลังงานสูง เพื่อหยุดยั้งการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง มักใช้การฉายแสงร่วมในกรณีที่ผู้ป่วยผ่าตัดแบบสงวนเต้า หรือผู้ป่วยที่มีมะเร็งลุกลามมาที่ผิวหนังหรือกล้ามเนื้อหน้าอก
- การรักษาด้วยเคมีบำบัด (Chemotherapy)
เป็นการรักษาโดยการใช้ยาที่มีฤทธิ์ทำลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยออกฤทธิ์ทั่วร่างกายต่างจากการผ่าตัดซึ่งให้ผลเฉพาะที่ จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามะเร็งเต้านมที่หลงเหลือหรือมีการหลุดรอดไปยังระบบอื่น ๆ ช่วยให้มีโอกาสหายขาดและมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น
- การรักษาด้วยฮอร์โมน (Hormone Therapy)
ฮอร์โมนบำบัดมักใช้เพื่อรักษามะเร็งเต้านมหลังการผ่าตัด โดยจะช่วยลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นซ้ำ โดยทั่วไปแล้วใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 5 ปี แต่สำหรับผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการกลับมาเป็นซ้ำอาจต้องใช้เวลามากกว่า 5 ปี แต่ในบางกรณีอาจใช้ฮอร์โมนบำบัดก่อนการผ่าตัด เพื่อลดขนาดเนื้อก่อนผ่าตัด
- การรักษาด้วยยาเป้าหมายหรือยามุ่งเป้า (Targeted Therapy)
การรักษามะเร็งเต้านมมีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งให้หมดไป ซึ่งอาจใช้ยามุ่งเป้าได้ในกรณีที่มีเซลล์เป้าหมาย เนื่องจากเซลล์มะเร็งเต้านมนั้นมีหลายชนิด ยามุ่งเป้าที่จะไปจับกับเซลล์จึงต้องมีหลายชนิดเช่นกัน

มะเร็งเต้านมระยะไหน รักษาหาย ?
“มะเร็งเต้านม รักษาหายได้” โดยโอกาสในการหายจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระยะของมะเร็ง ชนิดของเซลล์มะเร็ง และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย หากตรวจพบในระยะที่ 0 – 2 ซึ่งเซลล์มะเร็งยังไม่แพร่กระจาย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการหายขาดได้อย่างมาก แต่หากเข้าสู่ระยะ 3 – 4 การรักษาจะเน้นควบคุมโรคและยืดอายุผู้ป่วย
รูปแบบการรักษา ตามระยะของโรค
- มะเร็งเต้านมระยะ 1 – 2 : มีโอกาสรักษาหายสูงมาก หากได้รับการรักษาที่เหมาะสมและรวดเร็ว
- มะเร็งเต้านมระยะ 3 : ยังคงมีโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้ หากตอบสนองต่อการรักษา
- มะเร็งเต้านมระยะ 4 : เป็นระยะที่มะเร็งแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย การรักษามุ่งเน้นที่การประคับประคองอาการและยืดอายุของผู้ป่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
อัตราการรอดชีวิต 5 ปี ตามระยะของโรค
- มะเร็งเต้านมระยะ 0 – 1 : มากกว่า 95%
- มะเร็งเต้านมระยะ 2 : ประมาณ 85 – 90%
- มะเร็งเต้านมระยะ 3 : ประมาณ 70 – 75%
- มะเร็งเต้านมระยะ 4 : ประมาณ 25 – 30%
หากคุณ มีอาการเจ็บเต้านมที่น่ากังวลอยู่ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อความสบายใจและเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว
มะเร็งเต้านม ยิ่งตรวจพบเร็ว ยิ่งเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาด
วิธีตรวจเต้านมด้วยตัวเอง เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถเฝ้าระวังและมีโอกาสตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะแรกได้ แม้ว่าจะไม่สามารถทดแทนการตรวจโดยแพทย์หรือแมมโมแกรมได้ แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความตระหนักรู้และลดความเสี่ยงจากโรคนี้ได้ หากพบความผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกต้อง
นอกจากนี้การดูแลสุขภาพโดยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และเข้ารับการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งเต้านม และเพิ่มโอกาสในการรักษาหายได้ในกรณีที่ตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะแรกสำหรับผู้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม หรือตรวจเต้านมด้วยตัวเองแล้วพบความเปลี่ยนแปลงที่สังเกตเห็นได้ชัด ที่ศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง MSC Healthcare มีทีมแพทย์เฉพาะทางผู้ชำนาญการพร้อมให้คำปรึกษา เพื่อประเมินความเสี่ยงและวินิจฉัยเพิ่มเติม พร้อมแนะนำแนวทางรักษาเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายได้ที่
โทร : 065-509-4459
Line : @msc.healthcare