โรคกรดไหลย้อน

ภาวะกรดไหลย้อน มักมาพร้อมอาการแสบร้อนกลางอก กลืนลำบาก หรือรู้สึกมีรสเปรี้ยวในลำคอหลังรับประทานอาหาร แม้เป็นอาการที่ไม่รุนแรงและสามารถหายได้เอง แต่หากเป็นเรื้อรัง ย่อมส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตเป็นอย่างมาก การรับประทานยาอาจช่วยบรรเทาอาการได้บ้าง แต่ก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยเฉพาะคนที่มีอาการกรดไหลย้อนรุนแรงร่วมกับภาวะอ้วน การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส เป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาที่ช่วยลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ดีที่สุด

กรดไหลย้อนรุนแรงคืออะไร? อันตรายและผลกระทบที่ไม่ควรมองข้าม

โรคกรดไหลย้อน (GERD) คือภาวะที่กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปยังหลอดอาหาร ส่งผลให้เกิดอาการแสบร้อนกลางอก เรอเปรี้ยว หรือเจ็บบริเวณหน้าอก ซึ่งหากเป็นเพียงชั่วคราวหรือในระยะเริ่มแรกอาจไม่ได้ส่งผลร้าย และยังไม่กระทบต่อคุณภาพชีวิตมากนัก แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อาจกลายเป็นกรดไหลย้อนเรื้อรังที่มีอาการถี่และรุนแรงมากขึ้น ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพ หรือเกิดการอักเสบเรื้อรังของหลอดอาหารได้ 

การรักษาโรคกรดไหลย้อน

นอกจากนี้อาการกรดไหลย้อนรุนแรงและเรื้อรังยังนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อน เช่น หลอดอาหารอักเสบ เป็นแผลเรื้อรัง ไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก เยื่อบุหลอดอาหารเปลี่ยนแปลง และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารได้ในระยะยาว

แสบร้อนกลางอก เป็นกรดไหลย้อนเรื้อรัง : ปรึกษาแพทย์ด่วน

รักษากรดไหลย้อนรุนแรงด้วยวิธีทั่วไป ทำไมบางคนถึงไม่ดีขึ้น

สำหรับวิธีรักษาโรคกรดไหลย้อนในระยะเริ่มต้น คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น งดอาหารมัน ของทอด เครื่องดื่มชา กาแฟ และแอลกอฮอล์ รวมถึงการนอนยกหัวเตียงสูง การควบคุมน้ำหนัก ร่วมกับใช้ยาลดกรด หรือยาบรรเทาอาการแสบร้อนทรวงอก เป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางรายแม้จะรับประทานยาอย่างต่อเนื่องและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว แต่ก็ยังคงมีอาการของกรดไหลย้อนอยู่ ซึ่งนั่นมาจากภาวะที่ หูรูดกระเพาะอาหารเสื่อมหรือหลวม ทำให้ไม่สามารถกั้นกรดและอาหารจากกระเพาะอาหารไหลกลับไปยังหลอดอาหารได้ ผู้ป่วยจะยังคงรู้สึกจุก และแสบร้อนในอกได้ ในกรณีนี้ แพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดกระเพาะอาหารร่วมกับผู้ป่วย เป็นทางเลือกในการรักษาโรคกรดไหลย้อนรุนแรงเพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะที่เป็นอันตรายในอนาคต

ผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสคืออะไร? ช่วยรักษากรดไหลย้อนได้อย่างไร

การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส (Roux-en-Y Gastric Bypass – RYGB) เป็นหนึ่งในวิธีมาตรฐานที่ใช้รักษาผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วน และจำเป็นต้องลดน้ำหนักเพื่อลดความเสี่ยงของโรคแทรกซ้อน โดยแพทย์จะใช้เทคนิคการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อลดขนาดของกระเพาะอาหาร ร่วมกับการเชื่อมต่อกระเพาะส่วนบนเข้ากับลำไส้เล็กส่วนกลาง เพื่อเปลี่ยนทางเดินอาหาร ทำให้อาหารไม่ผ่านกระเพาะส่วนล่างที่มีกรดสูง ช่วยลดแรงดันในกระเพาะ และลดโอกาสที่กรดจะไหลย้อนกลับขึ้นไปหลอดอาหารได้

อ่านบทความที่น่าสนใจ : เทคนิคการผ่าตัดกระเพาะบายพาส (Gastric Bypass Surgery) ทางเลือกสำหรับผู้ที่ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ

ผ่าตัดกระเพาะอาหารแบบบายพาส

ผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส ช่วยลดอาการกรดไหลย้อนรุนแรงได้จริงไหม?

จากงานวิจัยและประสบการณ์ของศัลยแพทย์ในต่างประเทศ ที่มีการติดตามผลหลังจากทำการผ่าตัดกระเพาะ เพื่อลดน้ำหนักและรักษากรดไหลย้อน พบว่าการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดช่วยควบคุมอาการของโรคได้ดีกว่าในระยะยาว ลดการทานยาในผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนรุนแรง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นและไม่กลับมาเป็นซ้ำ นอกจากนี้การผ่าตัดบายพาสยังช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้กรดไหลย้อนรุนแรงขึ้น การที่ผู้ป่วยสามารถลดและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ได้ จึงช่วยส่งเสริมให้เห็นผลของการผ่าตัดได้ในระยะยาว

ใครบ้างที่เหมาะกับการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสเพื่อรักษากรดไหลย้อน

ใครบ้างที่เหมาะกับการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสเพื่อรักษากรดไหลย้อน

การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสเป็นวิธีรักษาที่ใช้รักษาผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน และมีโรคแทรกซ้อน แต่อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยแพทย์จะพิจารณาจากเกณฑ์ต่าง ๆ ดังนี้

  • ผู้ที่มีภาวะอ้วนและค่า BMI  37.5 กก./ตร.ม.
  • ผู้ป่วยกรดไหลย้อนรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อยาและการปรับพฤติกรรม
  • มีปัญหาหูรูดกระเพาะอาหารเสื่อม
  • มีภาวะแทรกซ้อนจากกรดไหลย้อน เช่น หลอดอาหารอักเสบ เป็นแผลเรื้อรัง 
  • มีความเสี่ยงความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หรือโรคเบาหวานระยะเริ่มแรก

ข้อดีของการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสในการรักษากรดไหลย้อน

การผ่าตัดกระเพาะไม่เพียงแค่ช่วยรักษาโรคอ้วน และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังอื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังมีข้อดีอีกหลายด้าน ดังนี้ 

  • ลดการผลิตกรดและแรงดันในกระเพาะอาหาร
  • ลดความถี่และความรุนแรงของอาการแสบร้อนกลางอกและเรอเปรี้ยว
  • ฟื้นฟูสุขภาพของหลอดอาหารที่อักเสบ
  • ลดน้ำหนักซึ่งช่วยลดปัจจัยเสี่ยงกรดไหลย้อนในระยะยาว
  • ลดการพึ่งพายาในระยะยาว
  • ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งหลอดอาหารจากกรดไหลย้อนเรื้อรัง
  • ช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนดีขึ้น
ผลข้างเคียงของการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงของการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสที่ควรรู้

การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสก็มีความเสี่ยงและผลข้างเคียงเช่นเดียวกับการผ่าตัดรูปแบบอื่น โดยผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสรักษากรดไหลย้อน มีดังนี้  

  • อาการข้างเคียงจากการดมยาสลบ แต่เป็นผลระยะสั้นและมีอาการเพียงเล็กน้อย
  • อาจมีอาการกลืนอาหารลำบากในช่วงแรก แต่แก้ไขได้ด้วยการทานอาหารเหลวในช่วงแรก
  • อาจรู้สึกอึดอัดบ้างเล็กน้อย จากความแน่นของหูรูด ทำให้รู้สึกเรอได้ยากขึ้น
  • ภาวะขาดวิตามินหรือสารอาหาร เนื่องจากลำไส้มีการดูดซึมน้อยลง

อย่างไรก็ตามการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ พร้อมทั้งดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความรุนแรงของอาการแทรกซ้อน และช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นหลังผ่าตัดได้ 

สรุป ผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสช่วยรักษากรดไหลย้อนรุนแรงได้จริงไหม?

โรคกรดไหลย้อนรุนแรง เป็นภาวะที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ หากมีอาการเรื้อรังยิ่งเสี่ยงต่อโรคร้ายแรง การรักษาด้วยวิธีผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส จึงเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสหายจากโรคกรดไหลย้อนให้กับผู้ป่วยได้มากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาและมีภาวะอ้วนร่วมด้วย แม้จะมีอาการข้างเคียงในช่วงแรก แต่หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อยู่เสมอ การผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาสก็ถือเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัยและให้ผลดีในระยะยาว

หากท่านมีความกังวลเกี่ยวกับอาการกรดไหลย้อนเรื้อรังร่วมกับภาวะอ้วน สามารถปรึกษา MSC Healthcare เพื่อรับการวินิจฉัยเพิ่มเติมได้ทันที และหากจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะแบบบายพาส เรามีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะทางคอยดูแลและให้คำแนะนำ พร้อมทั้งการติดตามผลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ก่อนผ่าตัดและหลังผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนได้อีกครั้ง

สอบถามข้อมูลและทำนัดหมาย

โทร. 065-509-4459

Line : @msc.healthcare

เอกสารอ้างอิง :

1. Lundell, L., Miettinen, P., Myrvold, H. E., Hatlebakk, J. G., Wallin, L., Malm, A., Sutherland, I., Walan, A., & Nordic GORD Study Group (2007).
Seven-year follow-up of a randomized clinical trial comparing proton-pump inhibition with surgical therapy for reflux oesophagitis. The British journal of surgery, 94(2), 198–203. 

2. Lundell, L., Miettinen, P., Myrvold, H. E., Pedersen, S. A., Thor, K., Lamm, M., Blomqvist, A., Hatlebakk, J. G., Janatuinen, E., Levander, K., Nyström, P., & Wiklund, I. (2000). Long-term management of gastro-oesophageal reflux disease with omeprazole or open antireflux surgery: results of a prospective, randomized clinical trial. The Nordic GORD Study Group. European journal of gastroenterology & hepatology, 12(8), 879–887.